March 18, 2016

[TH] บันทึก; ลดน้ำหนัก(-13kg)

Photo by Tie (Feb 2016)

กลับมาไทยหลังไปเจอเพื่อนๆมาหลายคน มีแต่คนถามว่า "เห้ยย!! ทำไมผอมลง เยอะเลย!!!" บวกกับว่า ตอนนั้นโพสถามในเฟสบุ๊คเนอะ ว่าเห็นคนเขียนเรื่องลดน้ำหนักกันเยอะจัง เขียนบ้างดีมั๊ย? มีคนสนใจ เลยมาเขียนตามสัญญาแล้วนะ ว่าทำยังไงถึงลด แต่ยาวนะ :D  


จาก2014 - 64กิโล → ปัจจุบัน2016 - 50/51กิโล (ส่วนสูง165 cm)
ตอนนี้ก็ยังอ้วนอยู่นะ แต่ก็ไม่ค่อยซีเรียส เพราะเป็นคนชอบกินและขี้เกียจออกกำลังกาย5555

เราเป็นคนโครงใหญ่ ไหล่กว้างค่ะ (หล่อด้วย อิอิ) ✨✨
แขนยังใหญ่อยู่เลย ดูสิ... ขาก็เป็นกล้ามนะ.. (ตอนนี้กระโดดเชือกอยู่)

13 MAR 2016 - Photo by Kattiyashashin

จริงๆ การลดน้ำหนักแบบไม่เครียดจะดีที่สุดค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะลดอะไรขนาดนั้น
ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า จริงๆทุกครั้งที่บอกว่าจะไดเอต จะหิวตลอดเวลาเลย เพราะงั้น ตลอดเวลาตั้งแต่เด็กจนโต จะจั๊มมั๊มมาตลอดเลยค่ะ ปกติน้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 56-63กิโล (ดีดไกลนิดนึง55)
ชอบมากบุฟเฟ่ ขนมและไอติม อร่อย... 😀🍦✨✨

เคยลดน้ำหนักได้ 6 กิโลภายใน 1 อาทิตย์ ประมาณสองรอบ..
แต่เพราะลดเร็วไป ไม่กินอะไรนอกจากนมเลย มันก็ดีดขึ้นมาเวลากินปกติ (โยโย่)

เคยผอมที่สุดในชีวิตคือ 49 กิโล ตอนปี 2009 มีแต่คนบอกว่าผอม แต่เราว่าก็ไม่ได้ผอมนะ ตอนนั้นอกหัก กินข้าวไม่ลง โหมงาน ร้องไห้ บ้าๆบอๆ ไม่ค่อยได้นอน (อดนอนได้มากสุด 5 วันแหน่ะตอนนั้น)

 Year 2009 

เมื่อก่อนคือ จะกินแต่ของคาว ชอบมาก ชม.นึงหิวที กินข้าวมันไก่บ้าง ข้าวขาหมูบ้าง เช้า กลางวัน เย็น บุฟเฟ่บ้าง จากการกินเลเวลนั้นไม่อ้วนขนาด80กิโลถือว่า ระบบเผาผลาญถือว่าดีมากนะ555

จาก 49กิโล > กินข้าว+โอริโอ้ปั่น+เค้กทุกมื้อ อยู่เกือบเดือน หลังทำใจได้ก็น้ำหนัก +12 อยู่นะ :D

🌸 ทำไมถึงเริ่มลดการกิน??
จริงๆหลายคนที่ไปอยู่ญี่ปุ่นมา จะอ้วนขึ้น ถ้าไม่ทำงานหนักมากๆแบบไม่มีเวลากินเวลานอนนะ อาหารอร่อย ให้เยอะมาก ข้าวนี่ประมาณอาหารตามสั่ง2จานไทย แถมกินไม่หมดจะดูไม่ค่อยดีด้วย เพราะทางร้านจะคิดว่า อาหารเค้าไม่อร่อยหรอ?? ทำไมกินไม่หมดล่ะ... เราจึงควรทานให้หมดค่ะ5555 พอเป็นแบบนั้น บวกกับเป็นคนชอบอยู่กับห้อง ไม่ชอบออกกำลังกาย น.น.ก็เริ่มเยอะขึ้น อากาศบ้านเค้าก็ไม่เหมือนบ้านเราเนอะ เหงื่อไม่ออก ไม่ได้เผาผลาญเลย ระบบย่อยก็แย่ลง เพราะกินแป้งเยอะ แล้วไม่ค่อยได้เผาผลาญออก ไม่ก็กินแล้วนอน ท้องอืดบ้าง อะไรบ้าง ปวดท้องมากๆ ทรมานสุดๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หยุดกินนะตอนนั้น ข้าวหน้าหมูทอด ข้าวแกงกะหรี่ อร่อยมาก ชอบกินสามมื้อติด ฟินมาก...

ช่วงปี2014 ช่วงเดียวกับภาพด้านบน... 63~64กิโล ชิวๆ ยังกินได้เรื่อยๆ555555

July 2014

จนถึงจุดๆนึงที่ว่า ไม่ไหวแล้ว ท้องอืดมากๆ ควรจะเลิกคิดว่ากินให้คุ้มดีกว่า กินให้หมดมันแพงนะ(ด้วยค่าเงินของเค้ากับเราไม่เหมือนกันเนอะ)

🌸 ทำไมถึงน้ำหนักลด??
เริ่มด้วยการกินอาหาร

😀 เช้า
- กินขนมปังกับนม/ข้าวต้มบ้าง ตามที่มี กินปกติ อาหารเช้าให้พลังงานนะ


ขนมปังทำเอง ไส้หมูสับกับวุ้นเส้น... ทำแป้งไว้แล้วแช่ตู้เย็น อบทานตอนเช้าร้อนๆ

😀กลางวัน
- ทำอาหารกินเอง พวกวุ้นเส้นผัด หรือกับข้าว ข้าวนิดๆ หรือเวลาออกไปทานข้างนอกก็จะกินแค่กับข้าว กับข้าว1/4 หรือ ครึ่งนึง ไม่ก็แบ่งกับเพื่อนเอา555 (แต่อยากกินอะไรก็กินนะ แค่ลดปริมาณ)

หรือไม่ก็ทำกับข้าวไปกิน แล้วนั่งต่อในห้องว่างๆที่โรงเรียน ไม่กินข้าวแทนด้วยเต้าหู้ 
เพื่อเป็นการประหยัดไปหน้าหนาวเลยไปนั่งอ่านหนังสือที่โรงเรียนแทน อิ


😀อยากกินขนม!?
จัดเลยค่ะ กลางวันนะ กินเลย มื้อนี้มื้อเดียวนะ แต่ไม่กินแบบบุฟเฟ่นะ ชิ้นสองชิ้น แบ่งกับเพื่อน เอาให้หายอยาก ได้กินหลายอย่างด้วย😀✨✨

ซอฟครีม ชินเก็นโมจิ อร่อยมากก✨✨

😀ของกินจุบจิบ
> เปิดถุงกิน 1/4 พอให้หายอย่างแล้วมัดเก็บนะ ของกรุบกรอบน่ากลัวสุด มันเพลินมาก อร่อย และเค็มซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพมากๆ
(ตอนนี้เราเองแทบจะไม่กินแล้ว เว้นว่าจะอยากมากๆก็จะใช้วิธีนี้ หรือไม่ก็หยิบชิมยื่นให้เพื่อนอ้วนแทนค่ะ5555)

😀เย็น
- จะกินเน้นกับข้าวซะส่วนใหญ่ ข้าวไม่กินหรือเจออะไรเผ็ดๆก็จะตักแค่ครึ่งทัพพี/ทัพพีนึง (โดยเฉพาะกับพวกแกงกะทิ ผัดกะเพรานี่ต้องข้าวว!!) หรือไม่ก็เป็นพวกนะเบะทำเอง


นาเบะ เอาหม้อดินมา ใส่ผมซุปปลา ใส่ไก่ ใส่ผักๆๆ เต้าหู้ ปิดฝา เข้าไมโครเวฟ 


อยากกินอะไรเผ็ดๆก็กินข้าวหน่อย กับผักผักแบบที่ชอบ (ทั้งหมดโยนเข้าไมโครเวฟอีกเช่นเคย) 


มื้ออยากกินปลา ต้องกินกับข้าว กิมจิ แล้วก็ไม่ได้ถ่ายเต้าหู้ แบบญี่ปุ่น (เต้าหู้ กับซอสโชยุ) 


ช่วงที่ท้องอืดหนักๆ เย็นเลิกงาน 3-4ทุ่ม จะต้มถั่วเขียว/ถั่วแดง ใส่น้ำตาลนิดหน่อย กินของเหลวๆ โจ๊กซอง ซีลีแลค อะไรพวกนี้ ย่อยง่ายหน่อย
*ช่วงท้องอืดอย่ากินเนื้อเยอะนะ มันไม่ดี มันย่อยยาก! เดี๋ยวจะเป็นหนักเอานะ!!*

June 2015 / 54-55Kg 
อีกอิเว้นท์นึงที่ไปช่วยหลังงาน AFA ตัวนุ่มนิ่ม แต่ก็ถือว่าผอมลง...
น้องสาวชอบมาบีบเนื้อแล้วบอกว่า "ชอบอะะะ เจ้เนื้อสโลววววว์ดี....."
แก่ไง ไม่เก็ทอีกว่ามันคืออะไร ต้องมานั่งถามเด็กอีกว่าสโลว์คืออะไร 55555

ประมาณนี้เนอะ มีอะไรถามได้นะ ยาวมากมาย หลักๆก็เรื่องการกินแหละ...  เป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย เหงื่อเยอะ อ้วน เหนื่อยง่ายไง 555 ใส่แว่นด้วยเกะกะเวลาออกกำลังกาย สรุปง่ายๆว่า ขี้เกียจ ละกันนะ

--------------------------------------------------------------------------------------------

🌸 ทิ้งท้ายนิดนึง เรื่องป่วย...
มีแต่คนบอกว่าป่วยเลยผอม... ป่วยจริงค่ะ ขี้โรค แต่แข็งแรงนะ แบกข้าวสารได้อยู่!!
แต่ที่ผอมลงนี่คุมตัวเองล้วนๆเลยนะ แก่แล้ว ระบบในร่างกายมันไม่ค่อยดี5555

ถ้าใครเคยดูตอนจัดทอร์คๆ จะเห็นว่าป่วยบ่อย กว่าจะหายนานด้วย...​
ตัดทอนซิลไปแล้ว ภูมิคุ้มกันเลยไม่ค่อยดีค่ะ เป็นภูมิแพ้ด้วย แพ้ทุกอย่าง จริงๆ แพ้แมลง ยุงด้วย..​

มีช่วงนึงเป็นโรคกระเพาะนะ แต่ไม่รู้ตัวนะ..
🇯🇵ตอนอยู่ญี่ปุ่นที่ว่าอาหารไม่ย่อย ปวดท้องมาก กลับมาไทย ปวดท้องไม่หาย เลยไปส่องกล้องดู เลยรู้ว่ามีแผลในกระเพาะ (แต่ตอนนี้หายแล้วนะ) ที่ปวดท้องบ่อยๆเพราะเครียด อันนี้เพิ่งรู้ตัวหลังหาหมอซักพัก เพราะหมอให้ยามาสารพัด ส่องกล้องดูก็แล้วก็ไม่มีอะไร พอเริ่มสังเกตตัวเองค่อยรู้ว่าเป็นเพราะอะไร (เป็นคนเครียดไม่รู้ตัว แต่ตอนนี้รู้แล้ว เพราะมีอาการคอยบอก555)

แล้วก็อันนี้ ไม่ได้บอกใครเท่าไหร่ แต่อยากจะบอกไว้เพราะว่ามันเกิดได้กับทุกคน เรามองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับปัจจุบันด้วยซ้ำ...

>นอกเรื่องแปป.. เรื่องส่องกล้อง... "ส่องล่าง ส่องบนเลย"
ประสบการณ์เป็นไงจะมาเล่าให้ฟัง..
พอดีส่อง2ทางเลยวางยาสลบ (ปกติถ้าส่องทางปากอย่างเดียวไม่วางยานะ) ตอนส่องไม่รู้สึกตัวเลย แต่ก่อนส่องต้องกินยาถ่าย ถ่ายออกมาให้หมดจนเป็นน้ำใสๆอย่างเดียว ทรมานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอได้ที่แล้ว(กำลังจะไปขึ้นเขียง) เขาก็จะให้เราไปรอในห้องรอ ก่อนจะเข้าไปในห้องที่เหมือนห้องผ่าตัด ใจเต้นตุบๆ มือไม้เย็นไปหมด กลัวเจ็บมาก...

.... จำได้ว่าภาพสุดท้ายก่อนสลบไป คือหมอและพยาบาล4-5 ถือกล้องที่มีสายใหญ่มากสีดำ รอปฏิบัติการแบบ โอยย... หน้าซีเรียสมาก จำจนวันตาย555

ตื่นมา.. ทั้งปวดฉี่ ทั้งท้องอืด... ลมเต็มท้องเลย...

แล้วก็มารู้ทีหลังว่าก่อนเขาจะส่องกล้องจากทางก้น เขาต้องเป่าลมก่อนเพื่อขยายลำไส้ ให้กล้องผ่านไปได้... พอรู้เท่านั้นแหละ เห็นภาพตัวเองเป็น"เป็ดปักกิ่ง"เลย นึกภาพตามนะ ที่แบบเอาลมเป่าตูดให้หนังมันพองๆ ก่อนเอาไปปิ้ง อร่อยเลย555

ผลก็คือ มีแผลในกระเพาะ บนกระเพาะเล็กๆ เลยทำให้เป็นกรดไหลย้อนบ่อยๆด้วย.. แต่ที่เพิ่มเติมมาก็คือ หมอเจอก้อนเนื้อตรงปลายลำไส้ ที่เป็นเนื้อร้าย ซึ่งหมอก็ตัดไปแล้วแหละ แต่ต้องคอยไปส่องทุกๆ3-4ปี แล้วตัดออกก่อนที่มันจะกลายเป็นมะเร็งแล้วลาม อันนี้มาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งได้มาจากใครไม่รู้ในบ้าน... 5555

แถมความรู้... ปกติแล้วมะเร็งลำไส้ใหญ่จะพบในคนที่มีอายุ 40ปีขึ้นไป เพราะงั้นไม่ต้องกังวลนะคะสาวๆ (ซึ่งเรายังไม่ถึง หมอเลยเป็นห่วงมากๆ แต่คนในบ้านและตัวเราเอง เว้นแม่/ปู่ เฉยๆมาก555)

--------------------------------------------------------------------------------------------

🌸 แนะนำเรื่องการออกกำลังกาย
สำหรับคนที่อยากออกกำลังกาย จะแนะนำให้วิ่ง(บนลู่วิ่งก็ได้) อะไรก็ได้ที่เป็นพวกคาร์ดิโอ้ ให้เบิร์นไขมันไปก่อน แล้วค่อยมาฟิต กระชับ ไม่งั้นเนื้อจะแน่นตั๊บบบบ ไม่ผอมลงนะ :D
** วิ่ง/ออกกำลังกาย ซัก 45นาที ถึง 1~2ชม. ครึ่ง กำลังดีนะ > อาทิตย์ละประมาณ 2-3ครั้ง**

เคยออกกำลังกายขาสั้นๆด้วยคลิปนี้ ลองดูๆ
https://www.youtube.com/watch?v=MG69sFM1UIw
อันนี้หน้าท้อง พุงยุบ เบาๆ ค่อยๆทำ ไม่ต้องหักโหม เท่าที่ทำได้ ค่อยๆเพิ่มไป
เบาๆทำได้ทั้งผชและผญ^^
https://youtu.be/reQNxaFhcBo



--------------------------------------------------------------------------------------------

🌸 ตอนนี้เลยคิดว่า ออกกำลังกายบ้างให้พอร่างกายแข็งแรง
มีภูมิต้านทานบ้าง ตอนนี้เลย.....
1.)ทุกเช้ากินโยเกิร์ต ไม่ก็น้ำส้ม หรือน้ำ2แก้ว ก่อนเลย
2.)พยายามกระโดดเชือกให้ได้ทุกวัน วันละ300ครั้ง
(เพราะไม่ชอบวิ่ง เข่าไม่ดี กระโดดก็ไม่ค่อยดีต่อเข่าแต่รู้สึกดีกว่าวิ่งนะ สำหรับเรา... 😁)

Photo by Kattiyashashin

🌸 🌸 รักษาสุขภาพนะคะทุกคน ^^ 🌸 🌸 

1 comment: